ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า ผลประกอบการสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,034 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 997 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตเด่นกว่าเท่าตัว สืบเนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ (1) การรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ภายหลังการพัฒนาที่ดินและระบบสาธารณูปโภคแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 (2) การเริ่มต้นโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในไตรมาสแรกของโครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการจำนวน 3,037 ล้านบาท ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจาก (1) รายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าที่เติบโต 12% จากปีก่อนหน้า สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของอัตราการปล่อยเช่าอาคาร S-OASIS เสริมทัพด้วย (2) รายได้จากธุรกิจโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า จากการมีห้องพักรูปแบบใหม่มานำเสนอ ซึ่งสามารถผลักดันให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ทั้งพอร์ตเติบโตขึ้น 24% จากปีก่อนหน้า บรรลุเป้าหมายตามแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่ตั้งไว้
โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ สิงห์ เอสเตท มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งทั้งโรงแรมในประเทศไทย และโรงแรม 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS Maldives ที่สามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้มีอัตราเข้าพักสูงถึง 89% และสามารถบริหาร ADR เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาส 1 ปี 2566 เช่นเดียวกันกับโรงแรมในสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ ที่มีการปรับปรุงโรงแรมในช่วงปีก่อน จึงมีความโดดเด่นและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เน้นการสัมผัสประสบการณ์ เป็นผลให้ระดับรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) เติบโตขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนอกจากผลการดำเนินงานที่บรรลุตามเป้าหมายตามแผนแล้ว ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ด้วยยอดจองซื้อรวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท เพื่อการขับเคลื่อนผลประกอบการและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น สิงห์ เอสเตท ยังมุ่งมั่นและตั้งใจดำเนินงานในทุกมิติ เพื่อส่งมอบคุณค่าและคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการการันตีความสำเร็จ และสิงห์ เอสเตท ยังได้รับรางวัล Thailand’s Most Admired Company ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากนิตยสาร BrandAge ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Sustainable Development) อีกเช่นกัน
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันรายได้สูงสุดใหม่ภายในปีนี้ แตะ 18,000 ล้านบาท ให้ได้สำเร็จ ด้วยสัญญาณการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากปลายปี 2566 ของธุรกิจที่พักอาศัย อาทิ โครงการบ้านแบรนด์ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซสและสริน รวมถึงการเริ่มรับรู้รายได้ของ โครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ ในช่วงท้ายของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท พร้อมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ SHAWN ปัญญาอินทรา และ SHAWN วงแหวนจตุโชติ บ้านเดี่ยวในเซ็กเมนต์ Premium Luxury เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในทำเลศักยภาพย่านรามอินทรา นอกจากนี้ในช่วงท้ายของปี บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการ และโครงการคอนโดฯ 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปี 2567 นี้ บริษัทฯ จะมีโครงการที่พัฒนาและรอการขายรวมทั้งหมด 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 37,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ธุรกิจที่พักอาศัยในปี 2567 เพิ่มขึ้นประมาณ 50% จากปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากยอดขายที่รอการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ที่อยู่ในมืออีกราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้เข้ามาภายในปี 2567