นายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ในฐานะ Sponsor ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ (LHSC) เปิดเผยว่า LHSC กองรีทโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จากกลุ่ม บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เตรียมลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ใน “โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” ท่าอากาศยานแห่งการช้อปปิ้งใจกลางพัทยาเหนือ รับภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นตัว ดันรายได้เพิ่ม หนุนประมาณการอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทนหลังลงทุนเพิ่มเติมในปีแรกสูงที่ประมาณ 9.5% โดยเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและประชาชนทั่วไป จองซื้อพร้อมกันในวันที่ 4-8 พ.ย.นี้
ด้าน นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHSC กล่าวว่า แนวโน้มนโยบายการเงินและทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาลง หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งนำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ Property Fund & REIT (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์และรีท) ที่จะมีต้นทุนทางการเงินลดลง หากธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตาม ขณะที่กองรีทกลุ่มรีเทลที่ลงทุนในศูนย์การค้า Tourist Mall มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่ดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยพบว่าช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยแล้ว 17.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 35% จากช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยในปี 2567 ที่ 36 ล้านคน
โดย LHSC กองรีทภายใต้การจัดการของ LH Fund ซึ่งปัจจุบันลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก มีกลุ่มลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติ ส่งผลให้ได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีกอย่างชัดเจน ล่าสุด LHSC เตรียมลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในสิทธิการเช่าโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา มูลค่ารวมไม่เกิน 5,700 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง) โดยจะมีแหล่งเงินทุนมาจากการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนมูลค่ารวมไม่เกิน 3,190 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะขยายพอร์ตสินทรัพย์ให้เติบโตกว่าเท่าตัวและมีสัดส่วนการลงทุนในกรุงเทพฯ และพัทยาใกล้เคียงกัน ช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงของแหล่งรายได้ รวมถึงเป็นโอกาสเพิ่มผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์
ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า LHSC เป็นกองรีทโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และเป็นกองรีทในกลุ่มรีเทลที่ลงทุนในศูนย์การค้าธีม “Tourist Mall” เน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย ซึ่งได้รับประโยชน์จากการขยายตัวอย่างชัดเจนของภาพรวมการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีก ปัจจุบัน LHSC ลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก บนทำเลใจกลางเมืองบริเวณอโศก-สุขุมวิท ย่านศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ โดยไตรมาส 2/2567 มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ย (Foot Traffic) สูงถึงกว่า 47,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 98%
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ LHSC ในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้จากการลงทุนรวม 696.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการลงทุนรวม 321.4 ล้านบาท เติบโตถึงกว่า 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นและได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตได้ดี โดย LHSC มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง (ปีละ 6 ครั้ง) ล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน 8 เดือนแรกของปีนี้ไปแล้วรวม 0.697 บาทต่อหน่วย ส่วนทรัพย์สินใหม่โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยไตรมาส 2/2567 จำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ย (Foot Traffic) สูงถึงกว่า 37,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 กว่า 10% และสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 รวมถึงมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 99%
ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 LHSC คาดว่าจะแจ้งราคาเสนอขายสูงสุดของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม โดยจะประกาศผ่านเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ LHSC และประชาชนทั่วไป จองซื้อพร้อมกันในวันที่ 4 – 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ราคาเสนอขายสูงสุด โดยผู้จองซื้อที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ได้รับสิทธิ กำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิจองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.5941 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติม และกรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้าย ต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุด จะได้รับเงินส่วนต่างคืนภายใน 7 วันทำการ (กรณีโอนเงิน) และ 10 วันทำการ (กรณีจ่ายเช็ค) นับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการจองซื้อ